ความเป็นมาและที่มาของการวิ่งมาราธอน
การวิ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นการแสดงความเข้มแข็งทั้งทางร่างกายและจิตใจ ผู้คนวิ่งระยะไกลแบบวิ่งมาราธอนมานานมากแล้ว แต่เมื่อก่อนยังไม่มีคำนี้บัญญัติขึ้น วันนี้ กีฬาวาไรตี้ จะพามาดู
ทั้งนี้ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้ที่สามารถวิ่งได้ในระยะไกล ๆ เป็นเวลานาน เป็นผู้มีความอดทน และความแข็งแกร่ง ตลอดจนบรรลุเป้าหมายส่วนตัว ต่อมาการวิ่งมาราธอนมักใช้เป็นการทดสอบความทนทานสำหรับนักวิ่ง โดยเฉพาะนักกีฬาที่กำลังฝึกซ้อมสำหรับกิจกรรมการวิ่งในระยะที่สั้น เช่น วิ่ง 100 เมตรหรือวิ่งผลัด
ต้นกำเนิดของการวิ่งมาราธอน
เชื่อกันว่าการวิ่งมาราธอนมีต้นกำเนิดมาจากตำนานกรีกโบราณที่อะพอลโลและชายอีกสี่คนสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงชัยชนะเหนือผู้บุกรุกที่รุกราน โดยคำว่า Marathós คำนี้มาจากคำภาษากรีกโบราณ ซึ่งหมายถึง “ความอดทน” แต่การวิ่งมาราธอนไม่ใช่หนึ่งในห้าเกม Panhellenic ดั้งเดิม ซึ่งนั่นหมายความว่ากีฬาประเภทนี้ไม่ได้มาจากกรีซ
การวิ่งมาราธอนมีประโยชน์มากมาย เป็นหนึ่งในกีฬาที่สามารถสร้างสุขภาพของเราให้ดูดีและแข็งแรงมากขึ้น รวมทั้งสามารถเพิ่มความอดทนและความฟิตของหัวใจ หลอดเลือด ได้อีกด้วยบางคนวิ่งมาราธอนด้วยเหตุผลทางด้านสุขภาพหรือเหตุผลอื่น ตัวอย่างเช่น บางคนอาจวิ่งเพื่อหารายได้สำหรับโครงการการกุศลอย่างการวิจัยโรคมะเร็งหรือจะเพื่อช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่นของตน บางคนอาจรวมกลุ่มกันวิ่งเพื่อเป็นการระลึกถึงบุคคลสำคัญที่จากไปก็ได้เช่นกัน
การแข่งขันวิ่งมาราธอนประจำปีเป็นหนึ่งในกิจกรรมกีฬาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมนุษย์มานานหลายศตวรรษและกลายเป็นงานระดับนานาชาติ นอกจากนี้การวิ่งมาราธอนยังเป็นกิจกรรมความอดทนทางกายภาพ โดยผู้เข้าร่วมจะวิ่งหรือเดินเป็นระยะทางมากกว่า 26 ไมล์ภายในเวลาที่กำหนด กิจกรรมมีตั้งแต่ 5k ไปจนถึงอัลตร้ามาราธอน แต่ทั้งหมดมีเส้นชัยที่นักกีฬาสามารถข้ามผ่านไปถึงเป้าหมาย ตามที่ระยะทางของการแข่งขันแต่ละประเภทกำหนดไว้
การวิ่งมาราธอนมักจัดขึ้นตามถนนหรือสวนสาธารณะในเมือง และบางครั้งจะวิ่งไปตามถนน โดยแต่ละกิโลเมตรจะมีขวดน้ำ ถังน้ำ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่วางไว้เป็นระยะตลอดเส้นทาง
มาราธอนถือเป็นการแข่งขันวิ่งระยะไกลประเภทหนึ่ง ซึ่งมีหลายระยะทางในการวิ่ง ไม่ว่าจะเป็นมินิมาราธอน ฮาล์ฟมาราธอน โดยระยะทางก็จะอยู่ที่ประมาณ 5 กิโลเมตร 10 กิโลเมตร 21 กิโลเมตร ไปจนถึง 42 กิโลเมตร
การวิ่งมาราธอนมักจะเปิดให้สำหรับนักวิ่งสมัครเล่น แต่บางงานก็จัดขึ้นสำหรับนักกีฬามืออาชีพโดยเฉพาะเช่นกัน โดยเจ้าของสถิติมาราธอนที่เร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์คือ Eliud Kipchoge แห่งเคนยา เขาวิ่งระยะทาง 26.2 ไมล์ (42.195 กิโลเมตร) ใน 2 ชั่วโมง 33 นาทีในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2018
การวิ่งมาราธอนถือเป็นกีฬาที่ใครก็สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการวิ่งมาราธอนต้องเลือกระยะทางการวิ่งของตนไปพอดี หากเลือกระยะทางที่เหมาะสมกับเราไม่ได้ ปัญหาสุขภาพอีกมากมายอาจจะตามมาภายหลังก็เป็นได้
